soup   van club                    
     
การท่องเที่ยว ที่มากกว่า การเที่ยวท่อง ..!!                    
     





soup van club     การท่องเที่ยว ที่มากกว่า การเที่ยวท่อง ..!!     ติดตามข่าวสารการท่องเที่ยว ... แวะมาเยี่ยมกันบ่อยๆ นะ คร๊าบ ..


บริษัท ไทยฮอตสปอต เน็ตเวิร์ค จำกัด สนใจโฆษณา Welcome to JustUsers.net
จีพีเอสเที่ยวไทยดอทคอม

....::::    ::::....         สมัครสมาชิกเว็บ ง่ายๆ ถ้ามีเฟซบุ๊คอยู่แล้ว     ในขั้นตอนสมัครสมาชิก   เจอหน้าแรก "กดยอมรับข้อตกลงของเว็บ Soup Van Club"     หน้าต่อไป ให้กดที่ภาพ   "ภาพเฟซบุ๊ค"   แล้วป้อนอะไรนิดหน่อย     จากนั้นรอสักครู่ ระบบจะพาเข้าเว็บอัตโนมัติ ..!!       ....::::    ::::....

ผู้เขียน หัวข้อ: 10 สถานที่ท่องเที่ยวเกี่ยวกับหินในไทย ที่ธรรมชาติรังสรรค์อย่างลงตัว  (อ่าน 3509 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ลุงซุป เชียงใหม่

  • soup chiangmai
  • Administrator
  • *
  • กดนิ้วโป้ง.! แทนคำขอบคุณ
  • -มอบให้: 631
  • -จึงได้รับ: 949
  • กระทู้: 2028
  • กำลังใจ : +928/-0
  • ลุงซุป เชียงใหม่
  • ระบบปฏิบัติการ:
  • Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
  • เบราเซอร์:
  • Chrome 88.0.4324.182 Chrome 88.0.4324.182
    • <b>กลุ่มพิเศษ..</b>
  • สมาชิกลำดับที่: 1
Share: โพสกระทู้นี้ลงใน Twitter ของคุณ  โพสกระทู้นี้ลงใน Facebook ของคุณ...              



รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวเกี่ยวกับหินในประเทศไทย สิ่งที่ธรรมชาติสรรค์สร้างจนก่อเกิดเป็นสิ่งอัศจรรย์ ทำให้เราได้ชื่นชมกับความสวยงามที่แปลกตา

          สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยมีหลากหลายแบบ ทั้งทะเล ภูเขา หรือสิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติรังสรรค์จนกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังต่างๆ หนึ่งในนั้นก็คือ “สถานที่ท่องเที่ยวเกี่ยวกับหิน” ที่ซุกซ่อนความงดงามอยู่ทั่วทั้งประเทศไทย วันนี้เราเลยหยิบเอาแหล่งท่องเที่ยวทางธรณีวิทยารูปร่างแปลกประหลาดที่น่าสนใจ พร้อมเชิญชวนให้ไปพิสูจน์ด้วยตาตัวเองกันสักครั้ง


1.  มอหินขาว อุทยานแห่งชาติภูแลนคา ชัยภูมิ
          เริ่มแรกที่ Unseen Thailand ชื่อดังอย่าง “มอหินขาว” หรือสโตนเฮนจ์เมืองไทย กลุ่มเสาหินทรายสีขาวขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นบนลานหญ้ากว้างบริเวณเนินเขา ภายในอุทยานแห่งชาติภูแลนคา โดยเกิดจากการสะสมของตะกอนทรายแป้งและดินเหนียวจากทางน้ำ เมื่อมีความเปลี่ยนแปลงของแผ่นเปลือกโลกเมื่อ 65 ล้านปีก่อน ทำให้มีการแตกหัก ผุพัง และการกัดเซาะ จนกลายเป็นเสาหินสูงใหญ่ 5 เสา รูปทรงประหลาดบนเนินเขาอย่างที่ปรากฏให้เห็นในปัจจุบัน นอกจากนี้บริเวณรอบๆ ยังมีกลุ่มลานหินอื่นๆ ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน


ที่ตั้ง :  อุทยานแห่งชาติภูแลนคา บ้านวังคำแคน หมู่ 9 ตำบลท่าหินโงม อำเภอเมือง ชัยภูมิ

          เวลา เปิด - ปิด :  ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. - 18.00 น. (เสียค่าธรรมเนียมให้กับอุทยานแห่งชาติภูแลนคา)
          website :  อุทยานแห่งชาติภูแลนคา
          พิกัด GPS. และการเดินทาง :  มอหินขาว ชัยภูมิ
          รีวิว :  มอหินขาว ชัยภูมิ ความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติรังสรรค์




2.  ผาช่อ อุทยานแห่งชาติแม่วาง เชียงใหม่
          ไปต่อกันที่ดินแดนแห่งหน้าผาหินในช่วง 5 ล้านปีก่อน มีลักษณะเป็นหน้าผาหินตกตะกอน สูงประมาณ 30 เมตร กว้างราวๆ 100 เมตร ที่ตัวหน้าผามีลวดลายลักษณะที่สวยงามแปลกตา มีริ้วลายของหินคล้ายกับผ้าม่าน สันนิษฐานว่าบริเวณนี้เคยเป็นแม่น้ำปิงมาก่อน ต่อมาธรณีแปรสัณฐาน และได้ดันชั้นตะกอนบริเวณขอบแอ่งของแม่น้ำ ซึ่งเป็นตะกอนในยุคเทอร์เชียรี มีอายุประมาณ 5 ล้านปี ขึ้นมา เมื่อโดนทั้งลม ฝน ฯลฯ กัดเซาะจึงกลายเป็นลวดลายที่สวยงามอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ซึ่งยังคงทิ้งร่องรอยการกัดเซาะจนกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจ


ที่ตั้ง :  อุทยานแห่งชาติแม่วาง ตำบลสันติสุข อำเภอดอยหล่อ เชียงใหม่

          เวลา เปิด - ปิด :  ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 น. - 16.30 น.
          website :  อุทยานแห่งชาติแม่วาง
          พิกัด GPS. และการเดินทาง :  ผาช่อ เชียงใหม่
          รีวิว :  ผาช่อ เชียงใหม่ ตะลุยป่าย้อนเวลาสู่โลกแห่งยุคเทอร์เชียรี




3.  สามพันโบก อุบลราชธานี
          แลนด์มาร์กชื่อดังของจังหวัดอุบลราชธานี เจ้าของฉายา “แกรนด์แคนยอนเมืองไทย” ที่จะโผล่มาให้ได้ยลโฉมเพียงแค่ช่วงระยะเวลาฤดูแล้งที่แม่น้ำโขงลดลงเท่านั้น โดยที่แก่งหินเหล่านี้ก็จะมีแอ่งน้อยใหญ่ เกิดจากการกัดเซาะของแรงน้ำวน เมื่อนับดูแล้วมีจำนวนมากกว่า 3,000 แอ่ง ซึ่งคำว่า “แอ่ง” ในภาษาท้องถิ่นจะเรียกว่า “โบก” จึงเป็นที่มาของคำว่า “สามพันโบก” นั่นเอง อีกทั้งด้วยความที่แก่งหินโดนน้ำกัดเซาะจนทำให้มีรูปร่างสวยงามแปลกตาแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะรูปวงรี รูปดาว รูปมิกกี้ เม้าส์ รูปหัวใจ และหินหัวสุนัข เป็นต้น ตามแต่จินตนาการของคนที่มองกันทีเดียว


ที่ตั้ง :  บ้านโป่งเป้า ตำบลเหล่างาม อำเภอโพธิ์ไทร อุบลราชธานี

          เวลา เปิด - ปิด :  เวลาเที่ยวสามพันโบกจะอยู่ในช่วงหน้าแล้ง หรือช่วงที่ระดับน้ำในแม่น้ำโขงลดระดับลง จะอยู่ราวๆ ระหว่างปลายเดือนพฤศจิกายน - ต้นเดือนพฤษภาคม ของทุกปี (ควรตรวจสอบข้อมูลก่อนการเดินทาง) และแนะนำให้ไปช่วงเวลาประมาณ 06.00 น. - 09.00 น. และ 15.00 น. - 17.30 น. เพราะแดดจะไม่ร้อนมาก อากาศกำลังสบาย
          พิกัด GPS. และการเดินทาง :  สามพันโบก อุบลราชธานี
          รีวิว :  สามพันโบก อุบลราชธานี กับ 16 ข้อควรรู้ที่ห้ามพลาด




4.  วนอุทยานแพะเมืองผี แพร่
          แหล่งเรียนรู้ทางธรณีวิทยาที่สำคัญของจังหวัดแพร่ ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่เกิดจากการทับถมกันของดินตะกอนแม่น้ำนานนับล้านปี โดยลักษณะการเกิดของเสาหิน เกิดจากกรวด หิน ดิน ทราย เกาะจับตัวกัน ยังไม่แน่นแข็งเต็มที่ ประกอบด้วยชั้นหินทรายละเอียดและชั้นหินทรายสลับกันเป็นชั้น ๆ แต่ละชั้นมีความต้านทานต่อการผุพังไม่เท่ากัน เมื่อถูกน้ำฝนชะซึมชั้นหินที่มีความต้านทานต่อการผุพังน้อยกว่าก็จะถูกชะล้าง กัดกร่อน เหลือชั้นที่มีความต้านทานต่อการผุพังมากกว่า ทำหน้าที่เสมือนแผ่นเกราะวางอยู่ข้างบนที่น้ำไม่สามารถชะกร่อนต่อไปได้ง่าย ส่วนที่เหลือจึงเกิดเป็นแท่ง เป็นหย่อม และมีรูปร่างแตกต่างกันออกไปดังเช่นปัจจุบัน


ที่ตั้ง :  วนอุทยานแพะเมืองผี ตั้งอยู่ระหว่างตำบลทุ่งโฮ้ง และตำบลน้ำชำ อำเภอเมือง แพร่

          เวลา เปิด - ปิด :  ทุกวัน ตั้งแต่เวลา  07.00 น. - 18.00 น.
          website :  วนอุทยานแพะเมืองผี
          พิกัด GPS. และการเดินทาง :  แพะเมืองผี




5.  ละลุ สระแก้ว
          “ละลุ” ในภาษาเขมร แปลว่า “ทะลุ” ที่นี่เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดจากน้ำฝนกัดเซาะ ยุบตัว หรือพังทลายของดิน เนื่องจากสภาพดินแข็งจะคงอยู่ไม่ยุบตัว เมื่อถูกลมกัดกร่อนจึงมีลักษณะเป็นรูปต่าง ๆ มองคล้ายกำแพงเมือง หน้าผา บ้างมีลักษณะเป็นแท่งๆ คล้ายกับแหล่งธรรมชาติบริเวณแพะเมืองผี จังหวัดแพร่ แต่มีขนาดเล็กกว่า แต่ก็สวยงามแปลกตาไม่แพ้กัน  โดยนักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถอีแต๊กที่ชาวบ้านในชุมชนนำมาบริการ ลัดเลาะไปตามท้องทุ่งจนถึงตัวละลุได้อย่างสบายๆ


ที่ตั้ง :  บ้านเนินมะขาม และบ้านคลองยาง ตำบลทัพราช อำเภอตาพระยา สระแก้ว

          เวลา เปิด - ปิด :  ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. - 18.00 น.
          website :  sakaeo.go.th
          พิกัด GPS. และการเดินทาง :  ละลุ จังหวัดสระแก้ว




6.  คลองหินดำ ชุมพร
          แกรนด์แคนยอนแห่งชุมพร มีลักษณะเป็นแนวกำแพงหินทั้งสองข้างที่เกิดจากการกัดเซาะของลำธารมายาวนาน จนเกิดเป็นลำธารที่มีความกว้างประมาณ 5 - 10 เมตร ไหลผ่านรอยแยกของหิน ในลักษณะลัดเลาะคดเคี้ยวไป - มา ระยะทางยาวมากกว่า 1 กิโลเมตร และมีแก่งหินสูงมากกว่า 3 - 5 เมตร โดยรอบมีต้นไม้หายากน้อยใหญ่ตั้งอยู่มากมาย บรรยากาศร่มรื่น ซึ่งในช่วงฤดูน้ำลดสามารถลงเล่นน้ำได้ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมล่องห่วงยางให้ได้สนุกสนานกันด้วย


ที่ตั้ง :  บริเวณวัดโรจดำริห์ (วัดคลองหินดำ) ตำบลเขาค่าย อำเภอสวี ชุมพร [/size]

          website :  www.chppao.go.th
          facebook :  คลองหินดำ Grandcanyon
          พิกัด GPS. และการเดินทาง :  คลองหินดำ จังหวัดชุมพร




7.  กองแลนแคนยอน แม่ฮ่องสอน
          เจ้าของฉายา “ปายแคนยอน” เพราะธรรมชาติได้สร้างความมหัศจรรย์ให้เกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้ มีลักษณะเป็นภูเขาหินรูปร่างต่าง ๆ ที่เกิดจากการยุบตัวของภูมิประเทศ บางส่วนยุบมากก็กลายเป็นเหวลึก และบางส่วนก็กลายเป็นแนวสันเขาที่มีความกว้างพอให้คนเดินได้ ที่นี่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบความสนุกสนาน ตื่นเต้นจากการเดินเลียบเลาะวนรอบเขา ทำให้เปิดมุมมองใหม่ของการชมบรรยากาศความสวยงามของธรรมชาติระหว่างสองข้างทาง แต่ควรระมัดระวังในการเดินชมด้วยเช่นกัน


ที่ตั้ง :  ตำบลแม่ฮี้ อำเภอปาย แม่ฮ่องสอน

          เวลา เปิด - ปิด :  ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. - 18.00 น.
          พิกัด GPS. และการเดินทาง :  กองแลน จังหวัดแม่ฮ่องสอน




8.  ลานหินปุ่ม – ลานหินแตก อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า พิษณุโลก
          ปรากฏการณ์ที่ธรรมชาติรังสรรค์ให้ก่อเกิดเป็นรูปทรงแปลกตา ซึ่งทั้ง “ลานหินปุ่ม” และ “ลานหินแตก” ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า สถานที่ที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มากมาย และตั้งอยู่ไม่ไกลจากกันมากนัก โดยมีเส้นทางที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินได้สบายๆ ไม่ลำบาก มีป้ายบอกไว้ชัดเจน ตลอดเส้นทางจะได้เห็นความหลากหลายของธรรมชาติ ทั้งพรรณไม้ ดอกไม้ และก้อนหินใหญ่สวยงามชวนให้ดูแปลกตา

          ลานหินปุ่ม :  อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 4 กิโลเมตร อยู่ริมหน้าผาลักษณะเป็นลานหินผุดขึ้นเป็นปุ่มไล่เลี่ยกัน สูงประมาณ 1 ฟุต เกิดจากการสึกกร่อนตามธรรมชาติของหินทางเคมีและฟิสิกส์ ประกอบกับการขัดเกลาของกระแสลมและสายฝน จนกลายเป็นรูปร่างดังปัจจุบัน


          ลานหินแตก :  อยู่ห่างจากฐานพัชรินทร์ ประมาณ 300 เมตร มีลักษณะเป็นหินที่มีรอยแตกเป็นแนวเป็นร่องเหมือนแผ่นดินแยก สันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากการโก่งตัวหรือเคลื่อนตัวของผิวโลกจึงทำให้พื้นหินนั้นแตกลักษณะนี้


ที่ตั้ง :  อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อำเภอนครไทย พิษณุโลก

          เวลา เปิด - ปิด :  ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. - 18.00 น. (เสียค่าธรรมเนียมให้กับอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า)
          website :  อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
          พิกัด GPS. และการเดินทาง :  ภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก
          รีวิว :  24 ข้อแนะนำก่อนเที่ยวภูหินร่องกล้า อ่านจบเที่ยวสนุกยิ่งกว่าเดิม




9.  เกาะหินงาม อุทยานแห่งชาติตะรุเตา สตูล
          เกาะเล็กๆ กลางทะเลอันดามัน ตั้งทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะอาดัง ไกลออกไปประมาณ 2.5 กิโลเมตร ความโดดเด่น คือ ชายหาดที่ทรายถูกแทนที่ด้วยก้อนหินสีดำเงางามสุดลูกหูลูกตา ก้อนหินกลมเกลี้ยงเนียนเรียบ ลวดลายสวยงาม ขนาดเล็ก - ใหญ่ แตกต่างกันไป โดยหินเหล่านี้ทับถมกันจนเกิดเป็นเกาะเล็กๆ ไม่มีหาดทราย รอบๆ เป็นน้ำทะเลสีฟ้าใส งดงามเกินบรรยาย เล่ากันว่าหินทุกก้อนมีคำสาปของเจ้าพ่อตะรุเตา หากใครนำติดตัวไปจะเกิดแต่หายนะ แต่อีกนัยหนึ่งคือมาตรการการป้องกันทรัพยากรทางจิตใจได้เป็นอย่างดี


ที่ตั้ง :  อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมือง สตูล

          เวลา เปิด - ปิด :  ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00 น. - 17.00 น.
          website :  เกาะหินงาม
          พิกัด GPS. และการเดินทาง :  เกาะหินงาม จังหวัดสตูล




10.  หินสามวาฬ (ภูสิงห์) บึงกาฬ
          Unseen จังหวัดบึงกาฬที่หลายคนอยากไปเยือนสักครั้ง ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อนุรักษ์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู มีลักษณะเป็นหินขนาดใหญ่ติดหน้าผาสูง แยกตัวเป็น 3 ก้อน มีอายุประมาณ 75 ล้านปี หนึ่งเดียวของโลก เมื่อมองดูจากระยะไกล หิน 3 ก้อนนี้จะดูคล้ายกับฝูงครอบครัววาฬ ที่ประกอบด้วย พ่อวาฬ แม่วาฬ และลูกวาฬ ซึ่งเรียกตามขนาดของหินแต่ละก้อน ตัวหินมีสีน้ำตาลแดงเข้ม พร้อมกับมีจุดสีขาว ๆ อยู่โดยรอบ ทั้งยังเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดในภูสิงห์ มองเห็นผืนป่า ทัศนียภาพของป่าภูวัว ห้วยบังบาตร แก่งสะดอก หาดทรายแม่น้ำโขงและภูเขาเมืองปากกระดิง ประเทศลาว อีกด้วย ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะเป็นหน้าผาสูงชัน ไม่ควรวิ่งไป - มา หรือกระโดด


          ที่ตั้ง :  ตำบลโคกก่อง อำเภอเมือง บึงกาฬ
          เวลา เปิด - ปิด :  ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00 น. - 18.30 น. (อนุญาตให้ขึ้นรอบสุดท้ายเวลา 17.00 น. ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและธรรมชาติ ควรรับฟังคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่)
          โทรศัพท์ :  08 8536 2717 (ฝ่ายบริหารทั่วไป)
          พิกัด GPS. และการเดินทาง :  หินสามวาฬ
          รีวิว :  หินสามวาฬ ภูสิงห์ หินยักษ์รูปวาฬสุดอันซีนที่บึงกาฬ


และนี่เป็นสถานที่เกี่ยวกับหินในประเทศไทยเพียงไม่กี่แห่งที่เราหยิบมาแนะนำกัน จริงๆ แล้วยังมีที่เที่ยวที่ธรรมชาติรังสรรค์อยู่อีกมากมาย เอาเป็นว่าหากมีโอกาสก็อย่าลืมไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยว เหล่านี้กันนะ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ททท. , สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช









ลุงซุป เชียงใหม่ ศุภชัย นันท์วโรทัย     081-032-1805    
 soup.van.cnx.    ID: 0810321805    soupvancnx     soup.van@hotmail.com

 

เว็บพันธมิตร, แลกลิ้งค์ เว็บบ้านพัก "แม่กลางหลวงฮิลล์" | ร้านชาสา บ้านรักไทย | เว็บรถป็อปดอทคอม | เว็บจีพีเอสเที่ยวไทยดอทคอม | เว็บพิจิตรบ้านเราดอทคอม
หน่วยงานการท่องเที่ยว การท่องเที่ยว (ททท.) | ททท.ภาคกลาง | ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออก | กรม อช.สัตว์ป่าและพันธุ์พืช | จองที่พัก อช.ระบบออนไลน์ | จังหวัดแม่ฮ่องสอน | ททท. สนง.แม่ฮ่องสอน | ศูนย์ศิลปาชีพ จ.แม่ฮ่องสอน | กระทรวงวัฒนธรรม | ศูนย์ข้อมูลมรดกโลก(ก.วัฒนธรรม) | สำนักอุทยานแห่งชาติ | เว็บโครงการหลวงฯ
คมนาคม, ขนส่ง การบินไทย | โอเรี่ยนไทย | แอร์เอเชีย | Solar Air | บางกอกแอร์เวย์ | บริษัทขนส่งจำกัด (บขส.) | การรถไฟแห่งประเทศไทย | สมบัติทัวร์ | เชิดชัยทัวร์ | สยามเฟิสท์ทัวร์ | นครชัยแอร์ | รถทัวร์ไทยดอทคอม | ติดตามการส่งพัสดุEMS | ตรวจผลสลาก.. | speedtest.adslthailand.com | speedtest.net | speedtest.or.th