เปิด “ประตูสู่หิมาลัย” ....เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา ดอยอินทนนท์
“ดอยอินทนนท์” แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งนอกจากจะเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทยแล้ว ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่สวยงามและน่าสนใจอยู่สองแห่ง คือเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปานและเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา นั่นเอง ซึ่งครั้งก่อนได้รีวิวเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปานมาให้ชมแล้ว ครั้งนี้เรามาชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกากันบ้างค่ะ
[attach=1]
“เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา” หรือ “อ่างกาหลวง” เป็นแอ่งน้ำธรรมชาติที่มีขนาดพื้นที่มากกว่า 10 ไร่ ตั้งอยู่บริเวณจุดที่สูงที่สุดของประเทศไทย หรือยอดดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ เป็นจุดที่มีน้ำท่วมขังตลอดปี อยู่ตรงข้ามกับศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ถ้าเริ่มต้นจากยอดดอยให้เดินมาทางป้ายสูงสุดแดนสยาม ผ่านสถูปเจ้าอินทวิชยานนท์ เดินมาจนถึงจุดวัดอุณหภูมิ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นทางเข้าเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา เส้นทางเดินนี้ถูกออกแบบโดย คุณไมเคิล แมคมิลแลน วอลซ์ นักสัตววิทยาและอาสาสมัครชาวแคนาดาประจำอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ซึ่งทุ่มเททั้งกำลังกาย กำลังความคิด และความสามารถในการสำรวจวางแผนเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้กับพื้นที่บนดอยแห่งนี้เป็นอย่างมาก จวบจนกระทั่งสิ้นชีวิตลงด้วยโรคหัวใจ ณ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
[attach=2]
คุณไมเคิล แมคมิลแลน วอลซ์ ผู้สำรวจวางแผนออกแบบเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา
สำหรับที่มาของชื่อ “อ่างกา” นั้น มีแหล่งอ้างอิง 3 แหล่งได้กล่าวไว้ โดยแหล่งอ้างอิงแรกกล่าวว่า ด้วยสถานที่แห่งนี้มีหินละม้ายคล้าย “กา” อยู่บริเวณอ่างน้ำแห่งนี้ แหล่งอ้างอิงที่สองกล่าวว่า ในสมัยก่อนเคยมีอีกามาอาศัยอยู่บริเวณแอ่งน้ำแห่งนี้ และแหล่งอ้างอิงที่สามกล่าวว่า “อ่างกา” เป็นคำที่เพี้ยนมาจากคำว่า “อั่งกา” ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่น ที่แปลว่า “ภูเขาใหญ่”
[attach=3]
[attach=4]
[attach=5]
*** โปรดติดตามต่อ ***
จุดที่น่าสนใจ คือ ป้ายสื่อความหมาย “ข้าวตอกฤาษี” ซึ่งเป็นพืชจำพวกมอสชนิดหนึ่ง แต่มีขนาดใหญ่กว่ามอสทั่วไป ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น มีสีเขียวสลับส้มกับสีน้ำตาลอ่อนๆ ข้าวตอกฤาษีนี้จะขึ้นได้เฉพาะบนที่สูงที่มีความชื้นมากและมีอากาศหนาวจัดเท่านั้น เป็นพืชที่หาดูได้ยากมาก เพราะจะเจริญได้ดีในระดับความสูง 2,000 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ชอบอาศัยอยู่ตามหุบเขาที่แสงส่องลงไปไม่ถึง เป็นพืชที่ขึ้นปกคลุมตามพื้นดิน โดยเฉพาะใต้ต้นไม้ใหญ่ ในอดีตข้าวตอกฤาษีเคยมีจำนวนลดลง เพราะมีการสูบน้ำบริเวณอ่างกาไปใช้ประโยชน์ ทำให้น้ำแห้งลงอย่างมาก ระบบนิเวศน์เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง แต่ในปัจจุบันมีการใช้น้ำจากอ่างกาลดลง ข้าวตอกฤาษีจึงฟื้นคืนกลับมามีสภาพเกือบเหมือนเช่นในอดีต
[attach=1]
[attach=2]
[attach=3]
[attach=4]
จุดที่น่าสนใจต่อมาคือ “ต้นกุหลาบพันปี” ที่ถือว่าเป็นนางเอกของเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติอ่างกาแห่งนี้ ต้นกุหลาบพันปีที่จะอวดโฉมบานสะพรั่งเป็นดอกไม้สีแดงสดดึงดูดให้นกเฉพาะถิ่นมาดื่มด่ำกับน้ำหวานและช่วยผสมเกสรเพื่อการขยายพันธุ์ต่อไป กุหลาบพันปีสายพันธุ์นี้ชอบขึ้นบริเวณผาหิน มีหน้าดินน้อย มีอากาศหนาวเย็นและมีความชื้น คนท้องถิ่นเรียกกุหลาบพันปีชนิดที่มีดอกสีแดงนี้ว่า “คำแดง” และพบเฉพาะบนดอยอินทนนท์ที่เดียวเท่านั้น จึงถือเป็นพืชเฉพาะถิ่น ลักษณะของลำต้นของกุหลาบพันปี เป็นต้นไม้พุ่มขนาดกลาง มีพันธุ์ดอกสีขาวและดอกสีแดง ออกดอกในช่วงเดือนมกราคม–กุมภาพันธ์ ส่วนตามโคนต้นกุหลาบพันปีจะมีข้าวตอกฤาษีขึ้นปกคลุมราวกับพรมธรรมชาติ
[attach=1]
[attach=2]
[attach=3]
[attach=4]
"กุหลาบพันปี" ในเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา
นอกจากนี้ ยังพบ "ต้นอูนแดง” ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งพืชประจำถิ่นที่หายาก และมีข้อมูลให้ศึกษาน้อยมาก
[attach=5]
“ต้นอูนแดง” ในเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา
นอกจากนี้ เมื่อเดินมาถึงทางแยกไปศาลเจ้ากรมเกียรติ เส้นทางนี้ไม่ได้อยู่ในวงกลมจะต้องย้อนออกมาทางเดิม ซึ่งศาลแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ พล.อ.อ เกียรติ มังคละพฤกษ์ และนายนิพนธ์ บุญทรารมณ์ ผู้ทำคุณประโยชน์ให้แก่กองทัพอากาศและประเทศชาติ ซึ่งประสบอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกจนถึงแก่กรรม ณ ที่แห่งนี้ หลังจากเสร็จภารกิจสำรวจที่ตั้งศูนย์ควบคุมและรายงานดอยอินทนนท์ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2515
[attach=1]
[attach=2]
[attach=3]
[attach=4]
[attach=5]
ศาลเจ้ากรมเกียรติ สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ พล.อ.อ เกียรติ มังคละพฤกษ์ และนายนิพนธ์ บุญทรารมณ์ ผู้ทำคุณประโยชน์ให้แก่กองทัพอากาศและประเทศชาติ
พิกัด เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา อ.จอมทอง เชียงใหม่ : 18.589125, 98.486566
http://maps.google.co.th/maps?um=1&hl=th&client=firefox-a&rls=org.mozilla:th:official&biw=1280&bih=631&q=18.589125, 98.486566 (http://maps.google.co.th/maps?um=1&hl=th&client=firefox-a&rls=org.mozilla:th:official&biw=1280&bih=631&q=18.589125, 98.486566)
ขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล
https://travel.mthai.com/blog/123596.html
http://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/index.php/topic,10177#.WaeEebJJbIU (http://www.tripchiangmai.com/chiangmaiboard/index.php/topic,10177#.WaeEebJJbIU)
https://www.travellerfreedom.com (https://www.travellerfreedom.com)
ถ่ายภาพและเรียบเรียง โดย Jomjam ทีมงาน soupvan cnx.
- THE END -
www.facebook.com/soupvan