หมวดทั่วไป
=> บันเทิง เริงใจ => ข้อความที่เริ่มโดย: ลุงซุป เชียงใหม่ ที่ 14 กรกฎาคม 2563, เวลา 14:07:39 น.

หัวข้อ: คำรณ สัมบุญณานนท์
เริ่มหัวข้อโดย: ลุงซุป เชียงใหม่ ที่ 14 กรกฎาคม 2563, เวลา 14:07:39 น.
[attach=1]

                    คำรณ สัมบุณณานนท์ เกิดที่กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2463 ที่บ้านหลังวัดเกาะสัมพันธวงศ์ ถนนทรงวาด (ทรงสวัสดิ์) จบการศึกษาชั้นมัธยมจากโรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย เป็นนักร้องเพลงลูกทุ่งมีเพลงที่เป็นที่รู้จัก เช่น มนต์การเมือง , ตาศรีกำสรวล , คนบ้ากัญชา , ตามนางกลับนา , ชีวิตครู , คนขายยา , คำสั่งพ่อ , คนพเนจร , ชายใจพระ , กรรมกรรถราง , คนแก่โลก , คนไม่รักดี , ชีวิตช่างไฟ , ชีวิตช่างตัดผม และ ชีวิตบ้านนา เป็นต้น

แนวการร้องเพลงของ คำรณ สัมบุณณานนท์ ได้รับอิทธิพลมาจาก ครูแสงนภา บุญญราศรี โดยเริ่มเข้าสู่วงการจากการประกวดร้องเพลงในงานวัด

                     ใน ปี พ.ศ. 2481 คำรณ สัมบุณณานนท์ ได้เล่นละครวิทยุเรื่อง "เจ้าสาวชาวไร่" ของ ครูเหม เวชกร และได้ร้องเพลงนำของละคร และเพลงๆ นี้ ได้รับยกย่องให้เป็นเพลงลูกทุ่งเพลงแรกของไทย และถือกันว่า คำรณเป็น "บิดาของวงการลูกทุ่งไทย"  เป็นนักร้องลูกทุ่งสมัยต้นๆ ของวงการ รุ่นเดียวกับ ชาญ เย็นแข , ปรีชา บุญยเกียรติ ก่อนรุ่นนักร้องลูกทุ่งดังอย่าง สุรพล สมบัติเจริญ , ชัยชนะ บุญนะโชติ , ก้าน แก้วสุพรรณ , กุศล กมลสิงห์ ฯลฯ คำรณ สัมบุณณานนท์ บันทึกเสียงแผ่นเสียงเพลงแรก จากผลงานเพลงขอ งครูไพบูลย์ บุตรขัน ชื่อเพลง "ชมหมู่ไม้" และมีเพลงดังเช่น เพลง ชายสามโบสถ์ , น้ำตาเสือตก , ตาสีกำสรวล , หนุ่มสุพรรณฝันเพ้อ , บ้านนาป่าร้าง , หวยใต้ดิน , มนต์การเมือง , ชายใจพระ

                     คำรณ สัมบุณณานนท์ หน้าตาดี ประกอบกับมีลีลาการร้องเพลงไม่เหมือนใคร ทำให้ได้รับบทพระเอกในภาพยนตร์หลายเรื่อง ตั้งแต่ พ.ศ. 2495 เช่นเรื่อง รอยไถ (2493) , ขุนโจรใจเพ็ชร์ (2495) , ชายสามโบสถ์ (2495) , เกวียนหัก (2498)

                     คำรณ สัมบุณณานนท์ ถือว่าเป็นผู้บุกเบิกเพลงเพื่อชีวิต และเพลงเสียดสีการเมือง และมีเพลงหลายเพลงที่เกี่ยวกับกัญชาอย่างมาก โดยเฉพาะเพลงกระท่อมกัญชา มีเกริ่นนำสำเนียงเหน่อว่า "เฮ้อ! สมัยนี้ เงินทองมันยังหายาก อัตคัตเสียจริงๆ ไอ้คนที่รวยก็รวยกันจนเหลือล้น ไอ้คนที่จนก็จนกันจนเหลือหลาย แต่อย่างผม บอกตรงๆนาย ไม่เคยเดือดร้อนนะ ขออย่างเดียว ขอให้ผมมีกัญชาดูด ผมจึงพอใจ ถ้าว่านะ บ้องที่หนึ่งเห็นนงนุช บ้องที่สองนับพุทธวาจา แหม! แต่บ้องที่ 3 นี่ไม่ไหวนาย เห็นแมวเป็นหมาซะนี่สิ นี่เขาจ้างมาให้ผมร้องส่ง แต่ก่อนจะร้องส่ง ขอให้ผมได้ล่อสักบ้องหน่อยเถอะ เอาล่ะ ผมจะ (เสียงดูดน้ำ) ช่างชื่นใจเสียเหลือเกินแม่คุณ เห็นสวรรค์ไรๆ แหนะ

                    ถัดมาคือเพลง “คนบ้ากัญชา” ในแง่หนึ่งของเพลงนี้เป็นการกล่าวถึงโทษของกัญชา ที่ทำให้ชายหนุ่มไม่เหลืออะไรในชีวิต โดยเฉพาะเมียของเขาซึ่งตีตัวออกห่างเพราะมีชู้ โดย คำรณ สัมบุณณานนท์ เกริ่นก่อนขึ้นเพลงนี้ว่า “ชื่นใจ ชื่นใจอะไรอย่างนี้ ปลอดโปร่งโล่งสมอง สบายตัว (แล้วหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง) อะไรๆ ในโลกนี้ มันก็ไม่ซื่อสัตย์เหมือนอย่างเจ้า สูบทีไร เป็นเมาทุกที


คำรณ สัมบุณณานนท์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2512 ด้วยโรคมะเร็งปอด