soup   van club                    
     
การท่องเที่ยว ที่มากกว่า การเที่ยวท่อง ..!!                    
     





soup van club     การท่องเที่ยว ที่มากกว่า การเที่ยวท่อง ..!!     ติดตามข่าวสารการท่องเที่ยว ... แวะมาเยี่ยมกันบ่อยๆ นะ คร๊าบ ..


บริษัท ไทยฮอตสปอต เน็ตเวิร์ค จำกัด สนใจโฆษณา Welcome to JustUsers.net
จีพีเอสเที่ยวไทยดอทคอม

....::::    ::::....         สมัครสมาชิกเว็บ ง่ายๆ ถ้ามีเฟซบุ๊คอยู่แล้ว     ในขั้นตอนสมัครสมาชิก   เจอหน้าแรก "กดยอมรับข้อตกลงของเว็บ Soup Van Club"     หน้าต่อไป ให้กดที่ภาพ   "ภาพเฟซบุ๊ค"   แล้วป้อนอะไรนิดหน่อย     จากนั้นรอสักครู่ ระบบจะพาเข้าเว็บอัตโนมัติ ..!!       ....::::    ::::....

ผู้เขียน หัวข้อ: 25 สถานที่เที่ยว "อันซีน" การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย.  (อ่าน 1529 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ลุงซุป เชียงใหม่

  • soup chiangmai
  • Administrator
  • *
  • กดนิ้วโป้ง.! แทนคำขอบคุณ
  • -มอบให้: 632
  • -จึงได้รับ: 949
  • กระทู้: 2041
  • กำลังใจ : +928/-0
  • ลุงซุป เชียงใหม่
  • ระบบปฏิบัติการ:
  • Windows NT 10.0 Windows NT 10.0
  • เบราเซอร์:
  • Chrome 109.0.0.0 Chrome 109.0.0.0
    • <b>กลุ่มพิเศษ..</b>
  • สมาชิกลำดับที่: 1
Share: โพสกระทู้นี้ลงใน Twitter ของคุณ  โพสกระทู้นี้ลงใน Facebook ของคุณ...              

          ชวนปักหมุด 25 ที่เที่ยว “อันซีน” ล่าสุดที่ได้เข้าลิสต์ “unseen thailand” ของ ททท. มีครบทุกภาคตอบโจทย์ทุกแนว อาทิ พาสาน - มอหินขาว - เกาะสีชัง - เกาะตะรุเตา จากการโหวตโดยคนไทยทั่วประเทศในโครงการ Unseen New Chapters

          หลังจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประกาศผล 25 แหล่งท่องเที่ยวอันซีน “Unseen Thailand” ที่ได้รับการโหวตมากที่สุดจากโครงการ Unseen New Chapters :  ปักหมุดมุมใหม่ เปิดไทยมุมต่าง จาก 77 จังหวัดทั่วไทย จากเสียงโหวตโดยคนไทยกว่า 3 แสนคน

          “กรุงเทพธุรกิจ” ชวนส่อง 25 ที่เที่ยวอันซีนน้องใหม่ ที่ได้บรรจุเข้าลิสต์ “Unseen Thailand” ของ ททท. ซึ่งมีครบทุกภาค สไตล์การเที่ยวทุกแนว ที่ไหนเด็ด และมีไฮไลต์น่าเที่ยวอย่างไรบ้าง ตามไปดูกัน !


 
ภาคเหนือ

1.  น้ำตกตาดใหญ่ เพชรบูรณ์
          นี่คือน้ำตกที่ได้ชื่อว่าเป็นมุมอันซีนแห่งใหม่ของเมืองไทย กับทิวทัศน์น่าเหลือเชื่อของหุบเขาน้ำตกขนาดยักษ์ ที่เราสามารถมองเห็นภาพความมหัศจรรย์ของน้ำตกเหนือทะเลหมอก จึงไม่แปลกที่หลายคนจะยกตำแหน่งของน้ำตกที่สวยที่สุดของเมืองไทยให้ “น้ำตกตาดใหญ่” ถ้าใครอยากสัมผัสน้ำตกแห่งนี้อย่างใกล้ชิด ก็สามารถใช้เส้นทางแอดเวนเจอร์ลัดเลาะจากป่าด้านบนสู่เบื้องล่างของน้ำตก รับรองประกันความชุ่มฉ่ำและความสวยงามระดับห้าดาว ช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การท่องเที่ยว คือ เดือนพฤษภาคม - สิงหาคม

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สำนักงานพิษณุโลก เบอร์โทรศัพท์ 0 5525 2742-3 หรือ 0 5525 9907





2.  พาสาน อาคารสัญลักษณ์ต้นน้ำเจ้าพระยา นครสวรรค์
          ด้วยดีไซน์สุดล้ำเหมือนหลุดออกมาจากโลกอนาคต ทำให้ “พาสาน” เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ขึ้นแท่นเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของเกาะยม "พาสาน" ถือเป็นสัญลักษณ์ของต้นแม่น้ำเจ้าพระยา แหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ตลอดจนการส่งเสริมอาชีพ กระตุ้นเศรษฐกิจในปากน้ำโพ เป็นมุมมองแปลงใหม่ของนครสวรรค์

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สำนักงานนครสวรรค์ เบอร์โทรศัพท์ 0 5622 1811-2




3.  วัดพระธาตุดอยพระฌาน อ.แม่ทะ ลำปาง
          “วัดพระธาตุดอยพระฌาน” แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของลำปาง เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมด้านพุทธศิลป์ที่งดงาม ตั้งอยู่บนยอดดอยพระฌาน นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้มาสักการะองค์พระธาตุแล้ว ยังสามารถแวะชมความงามของพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางทะเลหมอกยามเช้า ก่อนที่จะไปแขวนกระดิ่งขอพรจากพระพุทธรูปไดบุตสึหรือหลวงพ่อโตจำลองพระพุทธรูปองค์ยักษ์ที่มีใบหน้าเข้มขลัง แถมยังมากไปด้วยพลังศรัทธาด้วยศิลปะแบบญี่ปุ่น

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สำนักงานลำปาง เบอร์โทรศัพท์ 0 5422 2214-5




4.  วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร ลำพูน
          “วัดพระธาตุหริภุญชัย” วัดเก่าแก่ที่มีอายุมากว่า 1,300 ปี ภายในวัดมีศาสนสถานสำคัญมากมาย ทั้งประตูโขง ราชสีห์คู่ วิหารหลวง องค์พระธาตุหริภุญชัย ปทุมวดีเจดีย์ หอระฆัง เขาพระสุเมรุจำลอง และยังเป็นวัดที่มีกิจกรรมหลากหลายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะเทศกาลโคมแสนดวงเมืองลำพูน ถือเป็นช่วงเวลาพิเศษที่ชาวบ้านและนักท่องเที่ยว จะได้มีโอกาสถวายโคมสีสวยแด่องค์พระธาตุหริภุญชัย ซึ่งเมื่อเรามองไปยังทะเลโคมนับแสนที่แขวนอยู่ จะสามารถรับรู้ได้ถึงพลังศรัทธาที่ยิ่งใหญ่และสวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมากราบสักการะพระธาตุได้ตลอดทั้งปี

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สำนักงานลำปาง เบอร์โทรศัพท์ 0 5422 2214-5




5.  พุทธสถานถ้ำเชตวัน อ.นาน้อย น่าน
          ท่ามกลางหุบเขาอันเงียบสงบของ อ.นาน้อย น่าน “พุทธสถานถ้ำเชตวัน” เป็นบริเวณที่ “ครูบาน้อย” เกจิชื่อดัง เดินทางเข้าไปปฏิบัติธรรมอยู่ในถ้ำเป็นเวลาถึง 3 ปี ส่งผลให้หมุดหมายของนักเดินทางสายบุญ ที่ต่างแวะเวียนกันมาค้นหาปริศนาธรรมในถ้ำ ทั้งศึกษาและปฏิบัติ หลายคนตั้งใจมาสักการะองค์พระธาตุอินแขวน รวมถึงขอพรจากพระเจ้าทันใจ โดยสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี  

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สำนักงานน่าน เบอร์โทรศัพท์ 0 5471 1217-8




ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

1.  มอหินขาว ชัยภูมิ
          “มอหินขาว” เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคา มีจุดเด่นอยู่ที่เสาหินยักษ์ 5 ก้อน ได้สมญานามว่าเป็น “สโตนเฮนจ์เมืองไทย” ความสวยงามของมอหินขาวยิ่งสวยงามขึ้นแบบทวีคูณในช่วงฤดูฝน เพราะนอกจากนักเดินทางจะได้ชมประติมากรรมธรรมชาติของเสาหินแล้ว ยังจะได้ชื่นชมดอกไม้ป่าที่กำลังบานสะพรั่งทั่วอาณาบริเวณ

          นอกจากนี้ยังมีกลุ่มหินที่น่าสนใจอื่นๆ ได้แก่ หินเจดีย์โขลงช้าง ลานหินต้นไทร และจุดชมวิวผาหัวนาค ส่วนสายแคมป์ปิ้งที่ชอบดูดาว บริเวณมอหินขาวก็ถือว่า เป็นจุดชมดวงดาวและทางช้างเผือกระดับท็อปที่ควรค่าแก่การมาเยี่ยมเยือน
 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สำนักงานนครราชสีมา เบอร์โทรศัพท์ 0 4421 3030 หรือ 0 4421 3666




2.  วนอุทยานภูบ่อบิด เลย
          “วนอุทยานภูบ่อบิด” หรือ “ภูบักบิด” หรือที่คนในพื้นที่เรียกว่า ภูบ่บิด เป็นภูเขาลูกเล็ก อยู่ห่างจากตัวเมืองเลยเพียงแค่ 1 กิโลเมตร ทำให้กลายเป็น “หอชมทะเลหมอกใจกลางเมือง” หนึ่งเดียวในไทย และด้วยระยะทางที่กำลังพอดีทำให้กลายเป็นจุดมุ่งหมายของเหล่านักวิ่ง เพราะได้ทั้งออกกำลังกาย แล้วยังได้สูดอากาศบริสุทธิ์ พร้อมสัมผัสธรรมชาติสุดสวยอีกด้วย การพิชิตยอดภูบ่อบิดขึ้นมาสูดอากาศบริสุทธิ์พร้อมชมดวงอาทิตย์ท่ามกลางทะเลหมอกยามเช้า จัดว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่าแก่การเดินทางมาสัมผัสหมอกกลางเมือง ณ ที่แห่งนี้ดูสักครั้ง  

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สำนักงานเลย เบอร์โทรศัพท์ 0 4281 2812 หรือ 0 4281 1405




3. ผาพญากูปรี อ.ภูสิงห์ ศรีสะเกษ
          “ผาพญากูปรี” ถือเป็นจุดชมวิวที่มีอากาศเย็นบริสุทธิ์บนแนวเทือกเขาพนมดงรัก โดยได้ชื่อมาจากที่เคยเป็นสถานที่พบ “กูปรี” สัตว์ป่าที่สูญพันธุ์ไปแล้วในประเทศไทย ทั้งยังเป็นจุดชมธรรมชาติที่สวยงามของลำห้วยสำราญ แหล่งต้นน้ำสำคัญที่หล่อเลี้ยงชาวศรีสะเกษ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินลงไปชมภาพวาดพญากูปรี รวมถึงเที่ยวชมน้ำตกพญากูปรีในบริเวณเดียวกันได้อีกด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สำนักงานสุรินทร์ เบอร์โทรศัพท์ 0 4451 4447-8




4.  ชุมชนบ้านปรางค์นคร อ.คง นครราชสีมา
          สัมผัสมนต์เสน่ห์วิถีของชุมชนเชิงวัฒนธรรมเก่าแก่ กับบรรดาชาวบ้านที่พร้อมหยิบยื่นมิตรภาพอันแสนอบอุ่น ใน “ชุมชนบ้านปรางค์นคร” เป็นชุมชนท่องเที่ยว OTOP ที่มีของดีน่าสนใจอยู่หลายอย่าง อาทิ “บ้านเรือนไทยโคราช” อายุกว่า 100 ปี ที่ปัจจุบันยังมีคนพักอาศัยอยู่จริง นอกจากนี้ยังมี “สะพานข้ามบารายสวรรค์” สะพานไม้ไผ่ที่เกิดจากความสามัคคีของชาวบ้าน แต่ที่เป็นไฮไลต์ห้ามพลาด คือ กิจกรรมรับพลังจักรวาลที่ “ปราสาทบ้านปรางค์” โบราณสถานศักดิ์สิทธิ์ ศูนย์รวมใจประจำหมู่บ้าน นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมพายเรืออีโปงกับชิมอาหารพื้นถิ่น ที่ถือจัดเป็นของดีสุดคลาสสิกแดนอีสาน

ททท.สำนักงานนครราชสีมา เบอร์โทรศัพท์ 0 4421 3030 หรือ 0 4421 3666




5.  วัดพุทธวนาราม (วัดป่าวังน้ำเย็น) มหาสารคาม  
          พระอุโบสถวัดพุทธวนาราม (วัดป่าวังน้ำเย็น) เป็น อุโบสถที่สร้างจากไม้ตะเคียนที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างจากเสาไม้ตะเคียนทองขนาดใหญ่ โดยใช้เสาไม้ตะเคียนทองมากถึง 32 ต้น ขนาด 4 คนโอบ พระอุโบสถหลังนี้มีความสูงกว่า 20 เมตร  ภายในมีองค์พระประธานปางนาคปรกแกะสลักจากไม้สักทองทั้งองค์ ปัจจุบันวัดแห่งนี้นอกจากเป็นที่ศรัทธาของพุทธศาสนิกชน ยังมีชื่อเสียงมากขึ้นด้านการท่องเที่ยว กลายเป็นจุดหมายห้ามพลาดของจังหวัดที่นักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถแวะเวียนเยี่ยมชมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้  

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สำนักงานขอนแก่น เบอร์โทรศัพท์ 0 4322 7714-5




ภาคกลาง

1.  หอมนสิการ อ.แก่งคอย สระบุรี
          “หอมนสิการ” สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมรูปแบบใหม่ สร้างขึ้นจากศรัทธาและแรงบันดาลที่มีต่อพุทธศาสนา ภายในตัวอาคารสีขาวบริสุทธิ์ที่ซ่อนตัวอยู่กลางหุบเขา ประกอบด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ สักการะพระบรมสารีริกธาตุ 18 พระองค์ ชมภาพปักพระบรมโลกนาถ สัมผัสความงามของหอจัตุรัสอันศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งยังมีโซนนิทรรศการร่วมสมัยที่บอกเล่าความเป็นมาเป็นไปของพระพุทธเจ้า รวมถึงห้องจัดแสดงงานอาร์ตประเภทต่าง ๆ แฝงไว้ด้วยปริศนาธรรม ส่วนผู้ที่มาก็จะได้ซึมซับหลักธรรมแบบครบรส ทั้งตาดู หูฟัง สมองคิด และกายปฏิบัติ ถือเป็นธรรมะคอมมูนิตี้แบบครบวงจรอย่างแท้จริง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สำนักงานพระนครศรีอยุธยา เบอร์โทรศัพท์ 0 3524 6076-7




2.    ถ้ำโบ้ บ้านคีรีวงศ์ อ.เขาย้อย เพชรบุรี    
          “ถ้ำโบ้” ถ้ำที่อยู่กลางเขาอีบิด ลักษณะเป็นโพรงกว้าง ภายในเป็นถ้ำตื้น โถงถ้ำสูงโปร่ง มีหินงอกหินย้อยที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติสวยงาม อากาศถ่ายเทเย็นสบาย จากในถ้ำเมื่อมองลอดโพรงออกไปด้านหน้า จะเห็นทิวทัศน์ของ อ.เขาย้อย เพชรบุรี และ อ.ปากท่อ ราชบุรี ได้อย่างกว้างไกล และสวยงาม ส่วนด้านหลังถ้ำมีลานกว้าง เป็นจุดชมวิวดูทิวต้นตาล เอกลักษณ์โดยเด่นของเมืองเพชร และยังเป็นจุดชมดวงอาทิตย์ขึ้นและตกที่งดงาม เหมาะกับคนที่อยากได้คอนเทนต์เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเดินชมถ้ำ คือ 05.00 – 17.00 น. แต่ไม่แนะนำให้เดินทางท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝน เนื่องจากทางเดินขึ้นถ้ำมีความลาดชัน และทางเดินภายในถ้ำลื่นมาก อาจเกิดอันตรายหรืออุบัติเหตุได้ หากไม่ระมัดระวัง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สำนักงานเพชรบุรี เบอร์โทรศัพท์ 0 3247 1005-6




3.  อุโมงค์สามมิติ อ.ทองผาภูมิ กาญจนบุรี  
          สถานที่แห่งนี้เป็นเหมืองแร่เก่า มีความยาว 2,300 เมตร เป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรณีวิทยาและระบบนิเวศ บริเวณรอบๆ เหมืองปกคลุมด้วยผืนป่าสีเขียว พบเห็นพืชสมุนไพรเทียนตาตั๊กแตนเป็นหย่อมๆ ส่วนภายในอุโมงค์เริ่มมีหินงอกหินย้อยเปล่งประกายระยิบระยับ ธารน้ำน้อยๆ ไหลสู่น้ำตกผาแดง ยังคงมีหลักฐานจากอดีตเป็นเครื่องจักรและท่อลมขนาดใหญ่ให้พบเห็น ไฮไลต์อยู่ที่ประสบการณ์ลอดอุโมงค์ภายใต้ความมืดแต่กลับมีอากาศเย็นสบาย เมื่อมีแสงไฟสาดส่องไปยังไอหมอกที่ปกคลุมบริเวณปากอุโมงค์ จะดูคล้ายกับประตูกาลเวลาราวกับฉากไคลแม็กซ์ในภาพยนตร์ และเมื่อได้ผ่านทะลุออกไป จะให้ความรู้สึกราวกับว่าได้ทะลุผ่านจากมิติหนึ่งไปสู่อีกมิติ จึงเป็นที่มาของชื่อ “อุโมงค์สามมิติ” นั่นเอง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สำนักงานกาญจนบุรี เบอร์โทรศัพท์ 03451 1200 หรือ 0 3451 2500




4.  ภูผาแรด อ.บ้านคา ราชบุรี
          บริเวณที่เคยเป็นแหล่งสัมปทานระเบิดหินภายในอุทยานหินเขางู ถูกซ่อนไว้กลางหุบเขามานานหลายปี ลักษณะเป็นผาสูงชันที่มีร่องรอยเว้าแหว่งของหินจากแรงระเบิด เผยให้เห็นความสวยงามของลวดลายและสีสันของหน้าผาหินแกรนิต ซึ่งเป็นหินที่ถูกเปรียบเปรยว่า แข็งแกร่งดั่ง “แรด” จึงเป็นที่มาของชื่อ “ภูผาแรด” เสน่ห์ของมุมลับแห่งนี้ อยู่ที่ความสวยงามในแต่ละช่วงเวลาของวัน ซึ่งขึ้นอยู่กับทิศทางของแสงแดดที่ส่องลงบริเวณหน้าผาแต่ละฝั่ง และให้จับตาวินาทีที่น้ำนิ่งจนเกิดภาพเงาสะท้อนคล้ายภาพวาดบนผิวน้ำ ถือเป็นงานอาร์ตที่ธรรมชาติรังสรรค์

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สำนักงานราชบุรี เบอร์โทรศัพท์ 0 3291 9176-8




5.  วัดทางสาย อ.บางสะพาน ประจวบคีรีขันธ์    
          “พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ” ของ “วัดทางสาย” เป็นเจดีย์สร้างขึ้นจากพลังศรัทธาอันยิ่งใหญ่ของมวลชนที่มีต่อพระมหากษัตริย์ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลโดยเฉพาะในวโรกาสครองราชย์ครบรอบ 50 ปี ของรัชกาลที่ 9 จนได้รับพระราชทานชื่อจากในหลวงรัชกาลที่ 9 ตัวอาคาร 5 ชั้น คือการครองราชย์ครบ 50 ปี ส่วนเจดีย์หมู่ 9 องค์ หมายถึงวัดประจำรัชกาลที่ 9 และนอกจากความงดงามของที่มาที่ไปแล้ว ด้านบนของเจดีย์ยังเป็นสุดยอดจุดชมวิวดวงอาทิตย์ขึ้น และตกแห่งเมืองประจวบฯ ซึ่งเราสามารถมองเห็นความสวยงามของชายหาดบ้านกรูด และทิวมะพร้าวได้ไกลสุดสายตา

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ เบอร์โทรศัพท์ 0 3251 3885, 0 3251 3871 หรือ 0 3251 3854




ภาคตะวันออก

1.  เกาะสีชัง อ.เกาะสีชัง ชลบุรี
          “เกาะสีชัง” ถือเป็นจุดหมายที่ตอบโจทย์สำหรับนักท่องเที่ยวสายอนุรักษ์ ด้วยสถานที่ปลูกสร้างสมัยรัชกาลที่ 5 ทั้ง 5 จุด ไม่ว่าจะเป็นปลายแหลมถ้ำพัง เสาธงอัษฎางค์ สะพานอัษฎางค์ ช่องอิสริยาภรณ์ ไปจนถึงทะเลแหวกท้ายเกาะ นอกจากนี้ ตัวเกาะยังมีการจัดการกับสิ่งแวดล้อมที่เป็นระบบ ทั้งการนำขยะบนเกาะไปทำปุ๋ย การปลูกปะการังอ่อน การเปิดธนาคารปู และสัตว์น้ำหายาก เพื่อเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลรอบๆ เกาะให้มีความยั่งยืน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สำนักงานพัทยา เบอร์โทรศัพท์ 0 3842 7667, 0 3842 8750 หรือ 0 3842 3990




2.  วัดมณีวงศ์ นครนายก
          สำหรับผู้ที่ฝากตัวเป็นลูกหลานพญานาค ไม่ควรพลาด “วัดมณีวงศ์” เพราะวัดแห่งนี้ เกิดขึ้นจากพญานาคที่มาเข้าฝัน “หลวงพี่ต่อ” เจ้าอาวาสของวัด และได้พาหลวงพี่ไปชมคลังมหาสมบัติที่เมืองบาดาล เพื่อให้เกิดภาพจำและนำกลับไปสร้างที่วัด จนเกิดเป็นความอลังการของงานประติมากรรมพญานาคกว่า 1000 ตน ที่อาศัยเวียนวนอยู่ในถ้ำขนาดใหญ่ โดยจำลองบรรยากาศความยิ่งใหญ่มาจากเมืองบาดาล สู่ความงดงามที่ถูกถ่ายทอดผ่านงานปั้นชั้นครู รับรองว่าถูกใจลูกหลานพญานาคสายมูอย่างแน่นอน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สำนักงานนครนายก เบอร์โทรศัพท์ 0 3731 2282 หรือ 0 3731 2284




3.  วัดหงษ์ทอง อ.บางปะกง ฉะเชิงเทรา  
          “วัดหงษ์ทอง” ถูกน้ำทะเลกัดเซาะจนพื้นที่ใช้สอยภายในวัดหายไปเกินครึ่ง ทำให้ปัจจุบันสิ่งก่อสร้างภายในวัดอยู่ในทะเลไปโดยปริยาย เราจึงมีโอกาสได้เห็นทั้งโบสถ์กลางน้ำ อาคารในทะเล รวมไปถึงพระเอกใหม่ของวัดอย่าง “ซีวอล์ค” หรือ สะพานกระจกใส สะพานแก้วที่ทอดตัวออกไปในท้องทะเล ที่กลายเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกของเมืองแปดริ้ว ในช่วงเวลาน้ำขึ้น เพราะถ้ามองผิวเผินจะดูคล้ายกับผู้คนกำลังเดินอยู่บนผิวน้ำ และกลายจุดชมพระอาทิตย์ตกทะเลแห่งใหม่

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สำนักงานฉะเชิงเทรา เบอร์โทรศัพท์ 0 3851 4009




4.  วัดถ้ำเขาประทุน อ.เขาชะเมา ระยอง
          “วัดถ้ำเขาประทุน” เป็นวัดที่มีภูมิประเทศเป็น หุบ ผา และยอดเขาสูง มีถ้ำเล็กถ้ำน้อยที่เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยอยู่ภายใน ด้านหน้าของวัดมี “ถ้ำพญานาคราช” ที่มีลำแสงจากช่องเขารูปทรงพญานาคที่มองแล้วชวนให้รู้สึกอัศจรรย์ใจ แต่ไฮไลต์ของจริงคือการนั่งเรือลอดถ้ำในช่วงฤดูฝนระหว่างเดือนก.ค. - พ.ย. เข้าไปยัง “หุบผาสวรรค์” ที่พอหลุดออกมาจากความมืดของถ้ำ จะเหมือนทะลุออกมายังอีกมิติหนึ่ง ประกอบไปด้วยถ้ำอีกหลายถ้ำ ทั้งถ้ำนาคี ถ้ำรอยพระพุทธบาท และถ้ำหินงอกหินย้อย แถมยังมี “โพรงพญานาค” ซึ่งเป็นจุดที่คนเฒ่าคนแก่เล่าว่า เคยพบเห็นพญานาคเลื้อยผ่านเข้าออกอีกด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สำนักงานระยอง เบอร์โทรศัพท์ 0 3865 5420-1




5.  ถ้ำน้ำเขาศิวะ อ.คลองหาด สระแก้ว
          “ถ้ำน้ำเขาศิวะ” เป็นถ้ำที่เมีน้ำไหลตลอดทั้งปี บริเวณด้านในของถ้ำจึงมีสภาพเหมือนสระว่ายน้ำ ต้องอาศัยการสวมชูชีพแล้วเกาะห่วงยางลอยคอเข้าไป โดยมีเจ้าหน้าที่คอยนำทางและบรรยายเรื่องราวของแต่ละจุดให้ฟังตลอดทริป บรรยากาศด้านในเต็มไปด้วยความสวยงามของหินงอกหินย้อยรูปทรงหลากหลายตามแต่จะจินตนาการ และยังมีตำนานพ่อปูพญานาคองค์สีแดง ที่ชาวบ้านเคยพบเห็นแหวกว่ายอยู่ภายในถ้ำ ซึ่งเป็นที่มาของศาลพ่อปู่นาคาที่ตั้งอยู่บริเวณปากถ้ำ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สำนักงานนครนายก เบอร์โทรศัพท์ 0 3731 2282 หรือ 0 3731 2284




ภาคใต้

1.  อุทยานธรรมเขานาในหลวง อ.พนม สุราษฎร์ธานี  
          “อุทยานธรรมเขานาในหลวง” เป็นสำนักสงฆ์ที่สร้างขึ้นด้วยพลังศรัทธาของชาวบ้าน สถานที่แห่งนี้ เริ่มเป็นที่รู้จักจากความวิจิตรของประตูพุทธวดี หรือซุ้มประตูแห่งกาลเวลา ถือเป็นซิกเนเจอร์อันแสนงดงามยามเมื่อแสงเช้าตกกระทบ ก่อนจะต่อยอดพลังศรัทธา ด้วยการสร้าง เจดีย์ร้อยยอดพันองค์ เจดีย์ลอยฟ้าพุทธศิลาวดี เจดีย์ลอยฟ้าพุทธราชาวดี ทำให้ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ เป็นเหมือนสวรรค์บนดิน โดยเฉพาะยามทะเลหมอกเลื้อยพันรอบยอดเขา เจดีย์แต่ละองค์จะดูคล้ายกับลอยอยู่บนก้อนเมฆ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สำนักงานสุราษฎร์ธานี เบอร์โทรศัพท์ 0 7728 8817-9




2.  หมู่เกาะกำ ระนอง  
          “หมู่เกาะกำ” ถูกขนานนามว่าเป็น “หมู่เกาะหลงยุค” เพราะชาวบ้านเลือกใช้ชีวิตอยู่กับวิถีธรรมชาติ โดยประกอบด้วย 3 เกาะ คือ เกาะกำตก หรืออ่าวเขาควาย ด้วยเอกลักษณ์ของอ่าวเป็นชายหาดที่โค้งมาติดกันเป็นรูปวงกลมตามแนวเหนือ-ใต้ มีชายหาดที่ขาวสะอาด เนื้อทรายเนียนละเอียด น้ำทะเลโดยรอบเกาะเป็นสีฟ้าใส สามารถเล่นน้ำได้
          เกาะค้างคาว เหตุเพราะค้างคาวแม่ไก่ที่เคยอาศัยอยู่นับพันตัว บริเวณหน้าเกาะมีหาดทรายสีขาวละเอียดและนุ่มดั่งแป้งเด็ก พร้อมกับน้ำทะเลใสที่มองเห็นทราย โขดหิน และปะการังใต้น้ำได้แบบชัดเจน
          เกาะญี่ปุ่น ชาวบ้านเล่าว่า เมื่อก่อนเคยมีชาวญี่ปุ่นมาเลี้ยงหอยมุก บางคนก็บอกว่าที่นี่เป็นที่ประกอบอาหารส่งเสบียงให้แก่ทหารญี่ปุ่นในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 สภาพพื้นที่มีภูเขาเล็ก ๆ ด้านหน้าเกาะเป็นแนวชายหาด หาดทรายมีสีขาวละเอียด บริเวณรอบเกาะสามารถดำน้ำชมปะการัง มีปลาการ์ตูนและปลาสวยงามอย่างอื่นมากมาย
 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท. สำนักงานชุมพร เบอร์โทรศัพท์ 0 7750 2775-6 หรือ 0 7750 1831




3.  รอยพระพุทธบาทในทะเล สำนักสงฆ์เกาะแก้วพิสดาร ภูเก็ต
          “รอยพระพุทธบาทในทะเล” เป็นรอยพระพุทธบาท รอยที่ 5 “นัมมทานที” ซึ่งถือเป็น 1 ใน 5 รอยพระพุทธบาทที่ได้รับความศรัทธาเชื่อมั่นจากพุทธศาสนิกชนทั่วโลก ตั้งอยู่ที่ “สำนักสงฆ์เกาะแก้วพิสดาร” โดยช่วงเวลาน้ำทะเลขึ้นสูงจะไม่สามารถเห็นรอยพระพุทธบาท แต่เมื่อน้ำทะเลลดลงจะสามารถมองเห็นรอยพระพุทธบาทได้อย่างชัดเจน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สำนักงานภูเก็ต เบอร์โทรศัพท์ 0 7621 1036 หรือ 0 7621 2213




4.  หินพับผ้า นครศรีธรรมราช  
          ผาหินรูปร่างแปลกตาที่พบเห็นได้บริเวณกลางทะเลขนอม เป็นปรากฏการณ์ทางธรณีวิทยาที่มีอยู่เพียงน้อยแห่งบนโลกใบนี้ มีลักษณะเป็นแผ่นหินซ้อนเรียงกันเป็นชั้นๆ ซึ่งแต่ละจุดจะดูสวยงามแตกต่างกันตามแต่จะจินตนาการ โดยชาวต่างชาติเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “Pancake Rock” ส่วนคนไทยรู้จักกันในชื่อ “หินพับผ้า” เพราะดูคล้ายกับผ้าที่พับซ้อนกันเป็นชั้นๆ สามารถเดินทางมาชมชั้นหินได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงที่แนะนำ คือ เดือนม.ค. - เม.ย. โดยนักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือจากชุมชนแหลมประทับ เพื่อมาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติแห่งนี้ได้ตลอดวัน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สำนักงานนครศรีธรรมราช เบอร์โทรศัพท์ 0 7534 6515-6




5.  เกาะตะรุเตา สตูล  
          “ตะรุเตา” เกาะที่เต็มไปด้วยตำนานและคำบอกเล่า ทั้งขุมสมบัติ ถ้ำลับ โจรสลัด สัตว์ร้าย หรือแม้กระทั่งต้นไม้มีพิษ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเกาะตะรุเตามีภูมิประเทศหลากหลาย เต็มไปด้วยพืชพรรณแปลกๆ รวมถึงสัตว์หายาก อีกทั้งบนเกาะแห่งนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมาย โดยเฉพาะสถานกักกันตัวนักโทษ ซึ่งท้ายสุดแล้วกลายเป็นที่มาของตำนาน “โจรสลัดแห่งตะรุเตา” ช่วงเวลาที่เกาะตะรุเตาเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาผจญภัย คือ เดือนต.ค. - พ.ค.ของทุกปี

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ททท.สำนักงานสตูล เบอร์โทรศัพท์ 06 2595 7748



          สามารถรับชมสถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 25 แห่งผ่านมิวสิควิดีโอ “Unseen Music Vacation” เพลง “แรงดึงดูด” ร้องโดย “อิ้งค์ - วรันธร เปานิล” ศิลปินแถวหน้าของเมื่อไทย ที่จะสร้างแรงบันดาลใจการเดินทางท่องเที่ยวผ่านเสียงเพลง

ที่มา : 
[url=https://www.unseennewchapters.com/]https://www.unseennewchapters.com/ [/color][/url]






ลุงซุป เชียงใหม่ ศุภชัย นันท์วโรทัย     081-032-1805    
 soup.van.cnx.    ID: 0810321805    soupvancnx     soup.van@hotmail.com

 

เว็บพันธมิตร, แลกลิ้งค์ เว็บบ้านพัก "แม่กลางหลวงฮิลล์" | ร้านชาสา บ้านรักไทย | เว็บรถป็อปดอทคอม | เว็บจีพีเอสเที่ยวไทยดอทคอม | เว็บพิจิตรบ้านเราดอทคอม
หน่วยงานการท่องเที่ยว การท่องเที่ยว (ททท.) | ททท.ภาคกลาง | ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออก | กรม อช.สัตว์ป่าและพันธุ์พืช | จองที่พัก อช.ระบบออนไลน์ | จังหวัดแม่ฮ่องสอน | ททท. สนง.แม่ฮ่องสอน | ศูนย์ศิลปาชีพ จ.แม่ฮ่องสอน | กระทรวงวัฒนธรรม | ศูนย์ข้อมูลมรดกโลก(ก.วัฒนธรรม) | สำนักอุทยานแห่งชาติ | เว็บโครงการหลวงฯ
คมนาคม, ขนส่ง การบินไทย | โอเรี่ยนไทย | แอร์เอเชีย | Solar Air | บางกอกแอร์เวย์ | บริษัทขนส่งจำกัด (บขส.) | การรถไฟแห่งประเทศไทย | สมบัติทัวร์ | เชิดชัยทัวร์ | สยามเฟิสท์ทัวร์ | นครชัยแอร์ | รถทัวร์ไทยดอทคอม | ติดตามการส่งพัสดุEMS | ตรวจผลสลาก.. | speedtest.adslthailand.com | speedtest.net | speedtest.or.th